วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

กล้วยไม้ 7 พระนาม งดงาม เสน่ห์ล้ำ หลากสีสัน

กล้วยไม้ 7 พระนาม งดงาม เสน่ห์ล้ำ หลากสีสัน

กล้วยไม้ 7 พระนาม งดงาม เสน่ห์ล้ำ หลากสีสัน

               1.กล้วยไม้แคทลียา ควีนสิริกิติ์ กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นกล้วยไม้ที่สวยงามมาก มีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ออกดอกตลอดปี
               แคทลียา ควีนสิริกิติ์” (Cattleya Queen Sirikhit) บุปผาราชินีเมื่อบริษัท Black & Flory Ltd. แห่งประเทศอังกฤษ ได้คิดค้นกล้วยไม้ลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์ แคทลียา โบเบลล์ (Cattleya Bow Bells) และต้นพ่อพันธุ์แคทลียา ออเบรียนเนียนา (Cattleya Obrieniana var. aba) ในปี พ.ศ. 2501 และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ ( The Royal Horticulture Society) จึงได้มีการกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย สิริกิติ์” เป็นชื่อของกล้วยไม้ลูกผสมพันธุ์นี้ว่า แคทลียา ควีนสิริกิติ์” และไ้ด้ขึ้น

                          
ทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษเมื่อวันที่ 
ก.พ. 2501เมื่อวันที่ สิงหาคม 2551 ซึ่งถือเป็นวันสตรีไทย ทางสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานดอกกล้วยไม้พระนาม แทคลียา ควีนสิริกิติ์ เพื่อใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทยลักษณะทั่วไปเป็นต้นกล้วยไม้สูง 20-40 ซม. ลำลูกกล้วยรูปทรงกระบอก ใบรูปขอบขนาน ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 1-4 ดอก สีขาวนวล กลีบรองดอกรูปรีแกมสามเหลี่ยม กลีบดอก กลีบ มีกลีบปากแผ่กว้าง ขอบกลีบย่นเป็นคลื่น ตรงกลางกลีบมีแต้มสีเหลืองทองด้านใน เมื่อบานเต็มที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12-14 ซม. มีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ฝักรูปทรงสามเหลี่ยม ออกดอกตลอดปี



               2.กล้วยไม้รองเท้านารี "พริ้นเซสสังวาลย์" กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รองเท้านารีพันธุ์ลูกผสม ดอกลายสีบานเย็นเข้มทั้งดอก กล้วยไม้รองเท้านารี พริ้นเซสสังวาลย์
  (Paphiopedilum Princess Sangwan)รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์รองเท้านารีช่องอ่างทอง (Paphiopedilum godefroyae var. angthong) และต้นพ่อพันธุ์คือ รองเท้านารีดอยตุง ( Paphiopedilum charlesworthii)โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงโครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ ธันวาคม 2545 ดอกมีสีขาวลายบานเย็นหรือบานเย็นเข้มทั้งดอก ส่วนใหญ่จะมี ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ ซม. ก้านช่อดอกสูงประมาณ 10 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ ครั้งขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 31ธันวาคม 2547กล้วยไม้รองเท้านารี สังวาลย์ซีรีเบรชั่น ปีที่ 108  ( Paphiopedilum  Sangwan Celebration 108 th)เป็นกล้วยไม้พระนามของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ฉลองวาระ
พระราชสมภพครบ 
รอบปีนักษัตร  รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ รองเท้านารีโฮลดีนิอาย  ( Paphiopedilum Holdenii )และต้นแม่พันธุ์ คือรองเท้านารีดอยตุง ต้นสังวาลย์ 1  ( Paphiopedilum charlesworthii “Sangwan NO.1″ AM/RHT ) โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงโครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ สิงหาคม 2551 ดอกมีสีบานเย็นแดง กระเป๋าและกลีบข้างสัน้ำตาลแดง ส่วนใหญ่จะมี ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ 10 ซม.

                       
ก้านช่อดอกสูงประมาณ 
20-30 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ ครั้งขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551กล้วยไม้รองเท้านารี สังวาลย์แอนนิเวอร์ซารี่ ปีที่ 108  ( Paphiopedilum  Sangwan Anniversary 108 th)เป็นกล้วยไม้พระนามของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ฉลองวาระพระราชสมภพครบ รอบปีนักษัตร รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์  รองเท้านารีโรซิต้า ( Paphiopedilum Rosita )และต้นแม่พันธุ์ คือรองเท้านารีดอยตุง ต้นสังวาลย์ 1 ( Paphiopedilum charlesworthii “Sangwan NO.1″ AM/RHT ) โดยมูลนิะแม่ฟ้าหลวงโครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 15 สิงหาคม 25551 ดอกมีสีชมพูถึงบานเย็นแดงทั้งดอก ส่วนใหญ่จะมี ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ 10 ซม. ก้านช่อดอกสูงประมาณ 20-30 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ ครั้งขึ้นทะเบียนเป็นลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551


              3.กล้วยไม้หวายพันธุ์ "ชมพูนครินทร์" สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทานนามให้ ดอกมีสีโอรส (สีขาว อมชมพู อมส้ม) ปากดอกสีชมพูแดง สวยงามและคงทน
  กล้วยไม้หวาย พันธุ์ ชมพูนครินทร์”  ( Dendrobium “Pink Nagarindra” )
กล้วยไม้ลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ บลัชชิ่ง”  (Dendrobium Blushing) และต้นเม่พันธุ์ เอริก้า”  (Dendrobium “Arica”) โดยนายสวง คุ้มวิเชียร (แอร์ออร์คิดแล็บ) เป็นผู้พัฒนาพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเดือนกุมภาพันธุ์2546   และได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรม
                       
หลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 
พฤษภาคม 2550 ชื่อพันธุ์ “ชมพูนครินทร์ดอกมีสีโอโรส (สีขาว อมชมพู อมส้ม) ปากดอกเป็นสีชมพูแดง ปลายกลียดอกทั้ง เป็นสีเดียวกัน ลักษณะดอกกึ่งฟอร์มกลม มีความสวยและความทน และด้วยก้านช่อที่ไม่ยาวมาก จึงมีความเด่นที่จะเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดจัดโชว์ทั้งต้นและดอก มีอายุการใช้งานหลายสัปดาห์ ดอกกล้วยไม้พันธุ์นี้มีเกล็ดเงินระยิบระยับอ่อนๆแฝงอยู่ในกลีบดอกเมื่อถูกสะท้อนแสงไฟ ในช่วงอากาศหนาว ดอกจะเปลี่ยนสีเป็นสีโอโรสเข้มจัดทั้งดอก ต้นกล้วยไม้พันธุ์นี้มีขนาดกะทัดรัด ความสูงของต้นและดอกเฉลี่ยประมาณ 30-40 ซม. ออกดอกเฉลี่ยมากกว่า ครั้งต่อปี
                        


               4.กล้วยไม้แอสโคเซนต้า "สุคนธรัศมิ์" พระราชทานนามโดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กล้วยไม้แอสโคเซ็นดา สุคนธรัศมิ์
  (Ascocenda Sukontharat)แอสโคเซ็นดา ลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์คือ แวนด้าสามปอยขุนตาล (Vanda denisoniana) และต้นพ่อพันธุ์คือ แอสโคเซ็นดา คุณนก (Ascocenda Khon Nok) โดยนายปริยุตต์ ยุวานนท์ (บริษัท สากล ออร์คิด) ผู้พัฒนาพันธุ์และเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ดอกมีขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว กลีบดอกส่วนปลายมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมนุ่มนวล ซึ่งจะมีกลิ่นหอมมากในเวลาเช้าและหอม
                       
ตลอดทั้งวัน
  ออกดอกตลอดทั้งปีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานชื่อพันธุ์กล้วยไม้ ซึ่งบริษัท สากล ออร์คิด ได้ทูลเกล้าถวายเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 พระราชทานชื่อว่า สุคนธรัศมิ์” แปลว่ามีกลิ่นหอมอบอวลจรุงใจ ตามพระนาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 ขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551
 


               5.กล้วยไม้พันธุ์ "เอื้องศรีเชียงดาว" เป็นกล้วยไม้ดิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามให้ สามารถพบได้เฉพาะที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 
สิรินโดรเนีย” (Sirindhornia) เป็นกล้วยไม้สกุลใหม่ของโลก กล้วยไม้สกุลนี้ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2002 โดย นักพฤกษศาสตร์ชาวเดนมาร์ก ดร.เฮนริค เพเดอร์เซน จากมหาวิทยาลัยโคเปนฮาเกน    ประเทศเดนมาร์ก    ร่วมกับนักพฤกษศาสตร์ไทย   ดร.ปิยเกษตร สุขสถาน   จากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  จัดเป็นกล้วยไม้ดินกล้วยไม้ที่ค้นพบนี้ได้รับพระราชทานชื่อจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ร่วมกับองค์การสวนพฤกษศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ค้นพบกล้วยไม้สกุลใหม่ของโลก สายพันธุ์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญกล้วยไม้ของโลกโดยเทียบตัวอย่างกับกล้วยไม้ทั่วโลกกว่า 250,000 สายพันธุ์จากหอพรรณไม้โลก เป็นเวลากว่า ปี จึงพบว่าเป็นสกุลใหม่และสายพันธุ์ใหม่อย่างแท้จริง มีความแตกต่างกับกล้วยไม้ชนิดอื่นๆ มากและทั้งหมดเป็นกล้วยไม้ที่หายากในวโรกาสศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ครบรอบ 48 พรรษา จึงได้มีพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sirindhornia ดังนี้
                  
                เอื้องศรีเชียงดาว ( Sirindhornia pulchella H.A. Pedersen & S. Indhamusika )
กล้วยไม้ดิน สูง 10-25 ซม. ใบ แผ่รูปไข่กว้าง มีเส้นใบขนาน ตามยาวประมาณ 8-10 เส้น และมีจุดประสีแดงอมม่วงทั่วไป ช่อดอกสูง 10-30 ซม. มีประมาณ 4-12 ดอก ดอก สีชมพูมีประ สีชมพูเข้ม กลีบข้างเป็นสีชมพูแกมขาว แผ่คล้ายหูค่อนข้างกลม สีเขียวแกมชมพู กลีบปากมีจุดประสีแดงหรือสีออกแดงแกมชมพู ส่วนปลายแผ่เป็น พูตื้นๆ ขนาดประมาณ 10-11 มม. เส้าเกสร เป็นก้อนใหญ่ งวงน้ำหวานเป็นหลอดยาวโค้ง ขนาดยาวประมาณ 11-14 มม. เป็นพืชชนิดใหม่ พบเฉพาะที่ดอยเชียงดาว ในประเทศไทย ที่ระดับความสูง 1,800-2,000 เมตร ดอกบานช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน
               
               เอื้องศรีประจิม ( 
Sirindhornia mirabilis H.A. Pedersen & P. Suksathan )
กล้วยไม้ดิน สูง 10-34 ซม. ใบ แผ่รูปไข่กว้าง มีเส้นใบ ขนานตามยาวประมาณ 8-12 เส้น และมีจุดประสีแดงอมม่วงทั้งใบ ช่อดอกสูงได้ถึง 40 ซม มีประมาณ 16-36 ดอก ดอก สีชมพู กลีบข้างแผ่สีอมเขียว ขนาด 1.5 ซม. กลีบปากมีสีชมพูแกมชมพูอ่อน ส่วนโคนแผ่ขยายออกเป็นปีก ข้าง ส่วนกลางคอดกิ่ว ส่วนปลายแผ่ หยักเว้าเป็น พู งวงน้ำหวานส่วนโคนเป็นหลอดตรงส่วนปลายงอโค้ง ขนาด 8-มม. เป็นพืชชนิดใหม่ พบเฉพาะที่ดอยหัวหมุด จังหวัดตาก ในประเทศไทย ที่ระดับความสูงประมาณ 1,000 เมตร ดอกบาน ช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
                  
               เอื้องศรีอาคะเนย์
  ( Sirindhornia monophylla (Collett & Hemsl.) H.A. Pedersen & P. Suksathan )
กล้วยไม้ดิน สูง12-40 ซม. ใบ แผ่ รูปรีแกมขอบขนาน มีเส้นใบขนานตามยาว 12-20 เส้น และมีจุดประขนาดค่อนข้างใหญ่ สีแดงอมม่วงทั้งใบ ช่อดอกสูง 10-25 ซม มี 6-40 ดอกดอก สีขาวแกมชมพู มีจุดประสีชมพูเข้ม กลีบข้างแผ่คล้ายหูหรือลักษณะค่อนข้างกลม สีชมพูแกมเขียว กลีบปากมีจุดประสีแดงแกมชมพู ส่วนปลายแผ่เป็น พู งวงน้ำหวานเป็นหลอดตรงหรือโค้งเล็กน้อย ขนาดสั้นกว่า มม. เป็นพืชพบใหม่ มีการกระจายเป็นวงกว้าง ตามบริเวณ เขาหินปูน ที่ดอยหัวหมุด จังหวัดตาก ทางตอนเหนือของประเทศไทย รัฐชานสเตทตอนเหนือของประเทศเมียนม่าห์ และแคว้นยูนนาน ทางจีนตอนใต้ ที่ระดับความสูง 800-2,200 เมตร ดอกบาน ช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 


               6.กล้วยไม้ฟาแลนนอพซีส "พริ้นเซสจุฬาภรณ์" กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ ที่รัฐบาลศรีลังกา ทูลเกล้าฯ ถวายนาม
   กล้วยไม้ฟาแลนนอฟซิส พริ้นเซสจุฬาภรณ์  (Phalaenopsis Princess Chulabhorn) กล้วยไม้ฟาแลนนอพซิส พันธุ์พระนามนี้ เป็นผลงานการผสมพันธุ์ของสวนพฤกษศาสตร์เปราเดนนิยา (Royal Botanical Garden Peradeniya )ประเทศศรีลังกา เป็นลูกผสมของPhalaenopsis Rose Miva กับ Phalaenopsis Kandy Queen  ซึ่งทั้งสองชนิดล้วนเป็นสายพันธุ์ที่มีความงามอย่างโดดเด่น  รัฐบาลศรีลังกา
                          
ได้น้อมเกล้าฯ ถวายกล้วยไม้พันธุ์พระนามนี้ที่สวนพฤกษศาสตร์เปราเดนนิยา เมืองแคนดี ในเดือนสิงหาคม 2542 กล้วยไม้ฟาแลนนอฟซิส พริ้นเซสจุฬาภรณ์ เป็นกล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้นสูง 8-20 ซม. ใบสีเขียวเข้ม รูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 5-ซม. ยาว 10-16ซม. ดอกสีขาวนาล ออกเป็นช่อตามซอกใบ ก้านช่อยาว 30-45 ซม. ลักษณะกว้างกลมมน มีขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 7.5-9ซม. ตอนกลางดอกเป็นสีชมพูอ่อน กลีบปากส่วนโคนสองข้างแผ่ออกเป็นปีก ตอนปลายยาวเรียวเป็นเส้น ขอบมีสีเหลืองตอนกลางเป็นจุดประสีเลือดหมูแต้มทั่วไป


 
               7.กล้วยไม้หวายพันธุ์ "โสมสวลี" พระนามพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ดอกมีสีม่วงครามอ่อน ออกดอกเป็นพวง และด้วยก้านช่อที่ไม่ยาวมาก จึงโดดเด่นเหมาะสำหรับเป็นกล้วยไม้ประดับ ชนิดจัดโชว์ทั้งต้นและดอก กล้วยไม้หวาย พันธุ์ โสมสวลี”  ( Dendrobium “Soamsawali” )กล้ยไม้ลูกผสม ระหว่างต้นพ่อพันธุ์ คอมแพ็คตั้ม โบตาบลู” (Dendrobium compactum BotaBlue) และต้นแม่พันธุ์ ขาวธนิดาไวท์” (Dendrobium “Thanida White”) โดยนายสวง คุ้มวิเชียร(แอร์ออร์คิดส์ &แล็บ) เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเดือนมกราคม 2546  และได้รับ
                       
ประทานนามจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 
15 พฤษภาคม 2550ดอกมีสีม่วงครามอ่อน ดอกออกเป็นพวง ด้วยก้านช่อที่ไม่ยาวมากจึงมีความเด่นที่จะเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดจัดโชว์ทั้งต้นและดอก มีอายุการใช้งานหลายสัปดาห์ ดอกกล้วยไม้พันธุ์นี้มีลายเส้นสีขาวอ่อนๆ แฝงอยู่ในกลีบดอกและมีคอดอกสีขาว เมื่อดอกเริ่มบานจะมีสีเข้ม หลังจากดอกบานเต็มที่ทั้งช่อ สีม่วงของดอกจะสว่างขึ้น ต้นกลัวยไม้พันธุ์นี้มีขนาดกะทัดรัด ความสูงของต้นและดอกเฉลี่ยประมาณ 40-50ซม. ออกดอกเฉลี่ยมากกว่า ครั้งต่อปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น