กล้วยไม้ 7 พระนาม งดงาม เสน่ห์ล้ำ หลากสีสัน

แคทลียา “ควีนสิริกิติ์” (Cattleya Queen Sirikhit) บุปผาราชินีเมื่อบริษัท Black & Flory Ltd. แห่งประเทศอังกฤษ ได้คิดค้นกล้วยไม้ลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์ แคทลียา โบเบลล์ (Cattleya Bow Bells) และต้นพ่อพันธุ์แคทลียา ออเบรียนเนียนา (Cattleya Obrieniana var. aba) ในปี พ.ศ. 2501 และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ ( The Royal Horticulture Society) จึงได้มีการกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” เป็นชื่อของกล้วยไม้ลูกผสมพันธุ์นี้ว่า แคทลียา “ควีนสิริกิติ์” และไ้ด้ขึ้น

ทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2501เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ซึ่งถือเป็นวันสตรีไทย ทางสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานดอกกล้วยไม้พระนาม แทคลียา ควีนสิริกิติ์ เพื่อใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทยลักษณะทั่วไปเป็นต้นกล้วยไม้สูง 20-40 ซม. ลำลูกกล้วยรูปทรงกระบอก ใบรูปขอบขนาน ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 1-4 ดอก สีขาวนวล กลีบรองดอกรูปรีแกมสามเหลี่ยม กลีบดอก 5 กลีบ มีกลีบปากแผ่กว้าง ขอบกลีบย่นเป็นคลื่น ตรงกลางกลีบมีแต้มสีเหลืองทองด้านใน เมื่อบานเต็มที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12-14 ซม. มีกลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ฝักรูปทรงสามเหลี่ยม ออกดอกตลอดปี
2.กล้วยไม้รองเท้านารี "พริ้นเซสสังวาลย์" กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รองเท้านารีพันธุ์ลูกผสม ดอกลายสีบานเย็นเข้มทั้งดอก กล้วยไม้รองเท้านารี พริ้นเซสสังวาลย์ (Paphiopedilum Princess Sangwan)รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์รองเท้านารีช่องอ่างทอง (Paphiopedilum godefroyae var. angthong) และต้นพ่อพันธุ์คือ รองเท้านารีดอยตุง ( Paphiopedilum charlesworthii)โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 1 ธันวาคม 2545 ดอกมีสีขาวลายบานเย็นหรือบานเย็นเข้มทั้งดอก ส่วนใหญ่จะมี 1 ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ6 ซม. ก้านช่อดอกสูงประมาณ 10 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ 2 ครั้งขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 31ธันวาคม 2547กล้วยไม้รองเท้านารี สังวาลย์ซีรีเบรชั่น ปีที่ 108 ( Paphiopedilum Sangwan Celebration 108 th)เป็นกล้วยไม้พระนามของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ฉลองวาระ
พระราชสมภพครบ 9 รอบปีนักษัตร รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ รองเท้านารีโฮลดีนิอาย ( Paphiopedilum Holdenii )และต้นแม่พันธุ์ คือรองเท้านารีดอยตุง ต้นสังวาลย์ 1 ( Paphiopedilum charlesworthii “Sangwan NO.1″ AM/RHT ) โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 3 สิงหาคม 2551 ดอกมีสีบานเย็นแดง กระเป๋าและกลีบข้างสัน้ำตาลแดง ส่วนใหญ่จะมี 1 ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ10 ซม.
ก้านช่อดอกสูงประมาณ 20-30 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ 2 ครั้งขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551กล้วยไม้รองเท้านารี สังวาลย์แอนนิเวอร์ซารี่ ปีที่ 108 ( Paphiopedilum Sangwan Anniversary 108 th)เป็นกล้วยไม้พระนามของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ฉลองวาระพระราชสมภพครบ 9 รอบปีนักษัตร รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ รองเท้านารีโรซิต้า ( Paphiopedilum Rosita )และต้นแม่พันธุ์ คือรองเท้านารีดอยตุง ต้นสังวาลย์ 1 ( Paphiopedilum charlesworthii “Sangwan NO.1″ AM/RHT ) โดยมูลนิะแม่ฟ้าหลวง, โครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 15 สิงหาคม 25551 ดอกมีสีชมพูถึงบานเย็นแดงทั้งดอก ส่วนใหญ่จะมี 1 ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ 10 ซม. ก้านช่อดอกสูงประมาณ 20-30 ซม. ออกดอกเฉลี่ยประมาณปีละ 2 ครั้งขึ้นทะเบียนเป็นลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2551



ทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2501เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ซึ่งถือเป็นวันสตรีไทย ทางสภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระราชทานดอกกล้วยไม้พระนาม แทคลียา ควีนสิริกิติ์ เพื่อใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทยลักษณะทั่วไปเป็นต้นกล้วยไม้สูง 20-
2.กล้วยไม้รองเท้านารี "พริ้นเซสสังวาลย์" กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รองเท้านารีพันธุ์ลูกผสม ดอกลายสีบานเย็นเข้มทั้งดอก กล้วยไม้รองเท้านารี พริ้นเซสสังวาลย์ (Paphiopedilum Princess Sangwan)รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์รองเท้านารีช่องอ่างทอง (Paphiopedilum godefroyae var. angthong) และต้นพ่อพันธุ์คือ รองเท้านารีดอยตุง ( Paphiopedilum charlesworthii)โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 1 ธันวาคม 2545 ดอกมีสีขาวลายบานเย็นหรือบานเย็นเข้มทั้งดอก ส่วนใหญ่จะมี 1 ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ
พระราชสมภพครบ 9 รอบปีนักษัตร รองเท้านารีลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ รองเท้านารีโฮลดีนิอาย ( Paphiopedilum Holdenii )และต้นแม่พันธุ์ คือรองเท้านารีดอยตุง ต้นสังวาลย์ 1 ( Paphiopedilum charlesworthii “Sangwan NO.1″ AM/RHT ) โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย เป็นผู้ผสมพันธุ์ ให้ดอกครั้งแรกเมื่อ 3 สิงหาคม 2551 ดอกมีสีบานเย็นแดง กระเป๋าและกลีบข้างสัน้ำตาลแดง ส่วนใหญ่จะมี 1 ดอกต่อช่อ ขนาดประมาณ
ก้านช่อดอกสูงประมาณ 20-
3.กล้วยไม้หวายพันธุ์ "ชมพูนครินทร์" สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทานนามให้ ดอกมีสีโอรส (สีขาว อมชมพู อมส้ม) ปากดอกสีชมพูแดง สวยงามและคงทน กล้วยไม้หวาย พันธุ์ “ชมพูนครินทร์” ( Dendrobium “Pink Nagarindra” )กล้วยไม้ลูกผสมระหว่างต้นพ่อพันธุ์ “บลัชชิ่ง” (Dendrobium Blushing) และต้นเม่พันธุ์ “เอริก้า” (Dendrobium “Arica”) โดยนาย
หลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2550 ชื่อพันธุ์ “ชมพูนครินทร์”ดอกมีสีโอโรส (สีขาว อมชมพู อมส้ม) ปากดอกเป็นสีชมพูแดง ปลายกลียดอกทั้ง 5 เป็นสีเดียวกัน ลักษณะดอกกึ่งฟอร์มกลม มีความสวยและความทน และด้วยก้านช่อที่ไม่ยาวมาก จึงมีความเด่นที่จะเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดจัดโชว์ทั้งต้นและดอก มีอายุการใช้งานหลายสัปดาห์ ดอกกล้วยไม้พันธุ์นี้มีเกล็ดเงินระยิบระยับอ่อนๆแฝงอยู่ในกลีบดอกเมื่อถูกสะท้อนแสงไฟ ในช่วงอากาศหนาว ดอกจะเปลี่ยนสีเป็นสีโอโรสเข้มจัดทั้งดอก ต้นกล้วยไม้พันธุ์นี้มีขนาดกะทัดรัด ความสูงของต้นและดอกเฉลี่ยประมาณ 30-
4.กล้วยไม้แอสโคเซนต้า "สุคนธรัศมิ์" พระราชทานนามโดย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กล้วยไม้แอสโคเซ็นดา สุคนธรัศมิ์ (Ascocenda Sukontharat)แอสโคเซ็นดา ลูกผสมระหว่างต้นแม่พันธุ์คือ แวนด้าสามปอยขุนตาล (Vanda denisoniana) และต้นพ่อพันธุ์คือ แอสโคเซ็นดา คุณนก (Ascocenda Khon Nok) โดยนาย

ตลอดทั้งวัน ออกดอกตลอดทั้งปีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานชื่อพันธุ์กล้วยไม้ ซึ่งบริษัท สากล ออร์คิด ได้ทูลเกล้าถวายเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2551 พระราชทานชื่อว่า “สุคนธรัศมิ์” แปลว่ามีกลิ่นหอมอบอวลจรุงใจ ตามพระนาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 ขึ้นทะเบียนลูกผสมใหม่จากราชสมาคมพืชสวนอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2551
5.กล้วยไม้พันธุ์ "เอื้องศรีเชียงดาว" เป็นกล้วยไม้ดิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามให้ สามารถพบได้เฉพาะที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ “สิรินโดรเนีย” (Sirindhornia) เป็นกล้วยไม้สกุลใหม่ของโลก กล้วยไม้สกุลนี้ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2002 โดย นักพฤกษศาสตร์ชาวเดนมาร์ก ดร.

เอื้องศรีเชียงดาว ( Sirindhornia pulchella H.A. Pedersen & S. Indhamusika )กล้วยไม้ดิน สูง 10-
เอื้องศรีประจิม ( Sirindhornia mirabilis H.A. Pedersen & P. Suksathan )กล้วยไม้ดิน สูง 10-

เอื้องศรีอาคะเนย์ ( Sirindhornia monophylla (Collett & Hemsl.) H.A. Pedersen & P. Suksathan )กล้วยไม้ดิน สูง12-
6.กล้วยไม้ฟาแลนนอพซีส "พริ้นเซสจุฬาภรณ์" กล้วยไม้พระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ ที่รัฐบาลศรีลังกา ทูลเกล้าฯ ถวายนาม กล้วยไม้ฟาแลนนอฟซิส พริ้นเซสจุฬาภรณ์ (Phalaenopsis Princess Chulabhorn) กล้วยไม้ฟาแลนนอพซิส พันธุ์พระนามนี้ เป็นผลงานการผสมพันธุ์ของสวนพฤกษศาสตร์เปราเดนนิยา (Royal Botanical Garden Peradeniya )ประเทศศรีลังกา เป็นลูกผสมของPhalaenopsis Rose Miva กับ Phalaenopsis Kandy Queen ซึ่งทั้งสองชนิดล้วนเป็นสายพันธุ์ที่มีความงามอย่างโดดเด่น รัฐบาลศรีลังกา

ประทานนามจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2550ดอกมีสีม่วงครามอ่อน ดอกออกเป็นพวง ด้วยก้านช่อที่ไม่ยาวมากจึงมีความเด่นที่จะเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดจัดโชว์ทั้งต้นและดอก มีอายุการใช้งานหลายสัปดาห์ ดอกกล้วยไม้พันธุ์นี้มีลายเส้นสีขาวอ่อนๆ แฝงอยู่ในกลีบดอกและมีคอดอกสีขาว เมื่อดอกเริ่มบานจะมีสีเข้ม หลังจากดอกบานเต็มที่ทั้งช่อ สีม่วงของดอกจะสว่างขึ้น ต้นกลัวยไม้พันธุ์นี้มีขนาดกะทัดรัด ความสูงของต้นและดอกเฉลี่ยประมาณ 40-